ประวัติ ที่มา ประวัติ ที่มา วัดพระธาตุดอยสุเทพ

วัดพระธาตุดอยสุเทพ ดอยสุเทพเป็นภูเขาสำคัญทางตะวันตกของเมืองเชียงใหม่ ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารก็ตั้งอยู่ที่นี่เช่นกัน ภายในวัดมีพระธาตุดอยสุเทพซึ่งเป็นเจดีย์ทองคำ ภายในเจดีย์เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธเจ้า[1] ดอยสุเทพเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาถนนธงชัยทางใต้สุด มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,676 เมตรดอยสุเทพยังมีชื่อเรียกอื่นๆ ในตำนาน เช่น อุจชุคีรี[2] ดอยอ้อยช้าง หรือดอยกะลา[3] ชื่อปัจจุบันมาจากฤาษีวาสุเทพผู้บำเพ็ญตบะบนภูเขาลูกนี้เมื่อกว่าพันปีก่อน เดิมป่าดอยสุเทพได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ

ได้รับการประกาศให้เป็นป่าสันเขาตามพระราชกฤษฎีกาเมื่อปี พ.ศ. 2492[4] ต่อมาได้รับการประกาศให้เป็นเขตสงวนแห่งชาติในปี พ.ศ. 2492 พ.ศ. 2507 [5] และมีมติคณะรัฐมนตรีให้ประกาศเป็นเขตสงวนแห่งชาติพิเศษ เมื่อวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2510 กรมซ่อมบำรุง กระทรวงป่าไม้ ได้จัดตั้งสถานีป่าไม้ภาคเหนือในพื้นที่ดอยสุเทพ [6]ในอดีตดอยสุเทพเคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวลัวะ ชนพื้นเมืองดั้งเดิมที่ปกครองพื้นที่นี้ก่อนก่อตั้งเมืองเชียงใหม่ บริเวณตีนดอยสุเทพมีวัดป่ากลุ่มหนึ่งซึ่งมีมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 เป็นกลุ่มวัดล้านนาทางฝั่งอรัญวาสี คริสต์ศตวรรษที่ 21 กลายเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนานิกายป่าแดง

ประวัติ  วัดพระธาตุดอยสุเทพ

วัดพระธาตุดอยสุเทพ ตามเรื่องราวของดอยสุเทพเชื่อกันว่าภูเขาลูกนี้เดิมทีเป็นบ้านของฤาษีชื่อ “สุเทวา” ซึ่งตรงกับคำว่าสุเทพซึ่งเป็นที่มาของชื่อภูเขาสูงลูกนี้ วัดพระธาตุดอยสุเทพสร้างขึ้นเมื่อต้นพุทธศตวรรษที่ 19 ในสมัยของพระเจ้ากึณาธรรมิกราช พระเจ้าแผ่นดินเชียงใหม่องค์ที่ 6 แห่งอาณาจักรล้านนา ราชวงศ์มังราย เพื่ออนุรักษ์พระบรมสารีริกธาตุที่นำมาจากศรีสัชนาลัย

ตามตำนานพระเจ้ากึณาธรรมิกราช ทรงแยกพระบรมสารีริกธาตุออกเป็นสองส่วน องค์หนึ่งนำมาประดิษฐานที่พระธาตุวัดสวนดอก อีกองค์หนึ่งถูกอัญเชิญบนหลังช้างมงคล สมเด็จพระเจ้าแก่นธรรมราชทรงตั้งปณิธานว่าจะอธิษฐานขอโชคลาภโดยตรัสว่า ช้าง หยุดที่ใดก็มีพระธาตุตั้งขึ้น ณ จุดนั้น ช้างมาหยุดบนยอดดอยสุเทพ โดยทำทักษิณวราชสามครั้งก่อนจะล้ม (มรณภาพ) สมเด็จพระเจ้าเคยทรงโปรดให้ธรรมิกราชสร้างพระบรมสารีริกธาตุและพระบรมสารีริกธาตุถูกเก็บไว้บนยอดดอยสุเทพและเสด็จไปสวรรค์และโลกที่เชียงใหม่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

พระธาตุดอยสุเทพมีความสูงจากที่ราบเชียงใหม่ประมาณ 689 เมตร และสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,046 เมตร จนกระทั่งถึงปี 2,100 การจะไปถึงพระมหายันต์มงคลโพธิ์ วัด อ.โสการาม ค่อนข้างยาก ทางเมืองจึงสร้างบันไดพญานาคไว้ทั้งสองข้างเพื่อให้ประชาชนได้ปีนขึ้นไปสักการะได้ง่ายขึ้น และแม้กระทั่งในสมัยครูบาศรีวิชัย จากบริเวณสวนสัตว์เชียงใหม่มีการสร้างถนนทอดยาวผ่านวัดพระธาตุดอยสุเทพ และสิ้นสุดที่พระราชวังภูปิงคราชนิเวศน์ ถนนที่สร้างขึ้นมีความยาว 11.53 กิโลเมตร ทำให้การสัญจรของประชาชนสะดวกยิ่งขึ้น

วัดพระธาตุดอยสุเทพ พระธาตุของวัดนี้เป็นเจดีย์แบบเชียงแสน ฐานสูง มีระฆังแปดเหลี่ยม หุ้มด้วยจังโกทองศิลปะล้านนา 2 ชั้น โดยวางพระบรมสารีริกธาตุไว้ใต้ดิน ตามประเพณีการสร้างพระบรมสารีริกธาตุในสมัยก่อนนิยมฝังพระบรมสารีริกธาตุไว้ใต้ดินเพื่อใช้เป็นเสาหลักของเมืองเชียงใหม่ เชื่อกันว่าเมื่อท่านมาสักการะพระธาตุดอยสุเทพและขอพร ก็จะมีแต่ความสำเร็จ ความสมหวัง และอิสรภาพจากอุปสรรคมากมาย

ประเพณีปีนภูเขาเฉลิมพระเกียรติสระปารมีจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อเป็นเกียรติแก่พระธาตุดอยสุเทพ จะเกิดขึ้นหนึ่งคืนก่อนวันวิสาขบูชา ภายในงานจะมีขบวนแห่สรงพระธาตุโดยพระภิกษุ สามเณร และพุทธศาสนิกชนจากชุมชนต่างๆ หลายๆ คนจะรวมตัวกันในระยะทางกว่า 11 กิโลเมตรเพื่อสักการะพระธาตุแห่งนี้ ควรเตรียมข้าวเกรียบ ดอกไม้ ธูป เทียน แล้วเลี้ยวขวา 3 ครั้ง ไปถึงพระธาตุแล้วกล่าวคำบูชา โดยปรารถนาทุกสิ่งที่ปรารถนาให้เป็นจริง และควรสักการะพระธาตุทั้งสี่ทิศซึ่งมีคุณประโยชน์ต่างกัน ภาคเหนือขอปัญญาเหมือนพระจันทร์เต็มดวง ภาคใต้เรียกร้องให้มีการบวชพระในพระพุทธศาสนา ทิศตะวันออกขอขึ้นสู่สวรรค์ ทิศตะวันตกเป็นที่เคารพสักการะพระธาตุมากที่สุด สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อเทิดพระเกียรติพระธาตุดอยสุเทพ ควรมาสักการะอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ยังคงยืนหยัดอยู่ที่เชิงดอยสุเทพเพื่อเป็นเครื่องรางแห่งความโชคดี

อีกตำนานเล่าว่า พระเจ้ากือนาธรรมิกราชทรงแยกพระบรมสารีริกธาตุไว้เป็นสองส่วน โดยอัญเชิญองค์หนึ่งบรรจุไว้ที่พระธาตุวัดสวนดอก ส่วนอีกองค์หนึ่งได้อัญเชิญขึ้นบนหลังช้างมงคล โดยพระเจ้ากือนาธรรมิกราชทรงตั้งจิตอธิษฐานเสี่ยงทายว่า หากช้างเชือกนั้นหยุดลงตรงที่ใดก็จะให้สร้างพระธาตุขึ้น ณ ที่แห่งนั้น ซึ่งช้างเชือกดังกล่าวได้มาหยุดลงตรงยอดดอยสุเทพแห่งนี้ โดยทำทักษิณาวรรตสามรอบก่อนที่จะล้มลง (ตาย) ดังนั้น พระเจ้ากือนาธรรมิกราชจึงทรงรับสั่งให้สร้างพระบรมธาตุอันเป็นที่ ประดิษฐานองค์พระบรมสารีริกธาตุ ณ ยอดดอยสุเทพ อยู่คู่ฟ้าคู่ดินเชียงใหม่มานับแต่นั้นบนดอยสุเทพ จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่ได้ โดยเฉพาะตอนกลางคืน วิวกลางคืนของเชียงใหม่สวยมาก เป็นอีกจุดเช็คอินที่เรียกได้ว่าห้ามพลาดเลยทีเดียว

 

บทความแนะนำ